ปราบมาร 1

ความเสียหายจากการถูกมารยึดปกครอง

     ถ้าเป็นเรื่องในโลก เราเป็นเมืองขึ้นของเรา เราถูกเขาปกครอง แล้วจะมีอะไรเหลือ ป่าไม้สัก  บ่อน้ํามัน เพชรพลอยสารพัดบรรดามี ที่จ้าวประเทศราชจะเอาไป แต่ในทางธรรมสูญเสียยิ่งกว่านั้นนับเป็นร้อยเท่าพันทวี เช่น

     ๑. บุญ บารมี รัศมี กําลัง ฤทธิ์ อํานาจ สิทธิ เฉียบขาด สมบัติ คุณสมบัติ ความสําเร็จ ที่เราได้สร้างบารมีกันมานับชาตินับภพไม่ถ้วน มารเขามาย่อยแยกไป โดยที่เราไม่รู้ไม่เห็น  ไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร เหลืออยู่บ้างก็เล็กน้อยเหลือเกิน

     ๒. เห็น จํา คิด รู้ มารเขาเอาเห็น จํา คิด รู้ ของมารมาแทนไว้ ธาตุเดิมธรรมเดิมถูกมารระเบิดไป  พวกเราเห็นธรรมแบบเลือนลางกันทั้งนั้น ญาณ ๓ ก็ดี ทศพลญาณก็ดี ตรัสรู้ก็ดี  ถูกมารย่อยแยกไปทั้งนั้น ปิฎกของเราถูกมารเอาไป เอาปิฎกของเขามาแทน  เราตรัสรู้กันยากเหลือเกิน เรื่องเหล่านี้ ผมมารู้เห็นตอนทําวิชาปราบมารนี้เอง แต่ก่อนไม่รู้เรื่องอะไร  นึกอยู่แต่ว่าเรียนวิชาธรรมกายเพื่อไม่ให้ตกนรกเท่านั้น  

     ที่ผมเรียนมานี้เป็นส่วนน้อย ถ้าพูดหมดกระทงความ เกรงว่าท่านจะตกใจ  มารเขาทํากับเราถึงขนาดนี้ มิใช่เป็นแต่เราเท่านั้น ทิพย์ พรหม อรูปพรหม จักรพรรดิ กายสิทธิ์  โดนกับเขาด้วย ไม่มีเว้น รวมถึงธาตุธรรมด้วย มารไม่เว้นให้แก่ใครทั้งนั้น รังแกเราถึงปานนี้  เรายังไม่เรียนวิชาปราบมาร ก็แสดงว่า เรางอมืองอเท้า ปล่อยให้เขารังแก่เราข้างเดียว  

     ครั้นได้ข้อมูลเช่นนี้ เราก็วางแผนทําวิชา แผนแรก คือ  แผนติดตามเอาธาตุธรรมของเราที่มารเขาดับไว้มากน้อยเท่าไร ให้กลับคืนมาทั้งหมด แผนที่สอง  คือ แผนออกติดตามบารมีทั้งหลายทั้งปวงที่มารเขาเอาไป ให้ได้กลับคืนมาทั้งหมด แผนที่สาม คือ แผนติดตามปิฎกของเราว่ามารเขาเอาไปอย่างไร ถ้าเราติดตามมาไม่ได้ เราก็ตรัสรู้เล็กๆ น้อยๆ กันอยู่อย่างนี้  แผนที่สี่ คือ แผนตรวจสอบความเป็นมาเป็นไปของ นรก อเวจี โลกันต์ พวกเราตายไปแล้วถูกเก็บเป็นเชลยที่นี่  เราต้องไปรู้ไปเห็นมา และต้องมีการแตะต้องกันพอสมควร กวาดล้างกันพอสมควรก่อน  อย่างอื่นค่อยพิจารณาเป็นเรื่อง ๆ ไป

     ตามที่กล่าวมานี้ เป็นตัวอย่างที่เราจะต้องวางแผนการทํางาน หากเราไม่อาจไปสุดนิพพานแล้วเราจะได้ข้อมูลอะไรมาเป็นเครื่องมือวางแผนการเดินวิชาของเรา และตามหัวข้อวางแผนการเดินวิชานั้นเมื่อท่านเห็นหัวข้อเรื่อง ท่านอาจตกใจว่า เราจะทําได้จริงหรือ มีอะไรยืนยันว่าเราทําวิชาได้จริง  เรื่องเหล่านี้ท่านอย่ากังวลใจเลย วิถีทางของวิชาธรรมกายคล้ายกับการชกมวยเหมือนกัน กล่าวคือ แรก ๆ  เราก็ชกกันแค่งานวัด เราไม่คิดว่าต่อไปเราจะไปชกที่เวทีใหญ่อย่างเวทีราชดําเนิน และเราไม่คิดมาก่อนว่าต่อไปจะชิงแชมเปี้ยนโลก แต่เราก็ไปชิงกับเขา ส่วนที่ว่าเราจะได้เป็นแชมเปี้ยนโลกหรือไม่  เรื่องนั้นอย่าเพิ่งคิด อย่างผู้เขียนนี้ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า จะเรียนวิชาธรรมกายถึงขั้นแต่งตําราได้  แต่ผมก็ได้แต่งตําราไปหลายเล่มแล้ว เรื่องปราบมารเห็นว่าเป็นเรื่องเหลวไหล  แต่แล้วเรื่องนี้ก็มาประจันหน้ากับเรา มันเป็นวิถีทาง เพราะวิชาธรรมกายนี้ ยิ่งเรียนมากบารมียิ่งแก่กล้า  เมื่อบารมีของเราถึงขีดขั้น ย่อมรําลึกวิชาได้

 

 

บางส่วนจากหนังสือ ปราบมาร 1 หน้า 36  :  อ่านทั้งหมด | หน้าแรก