หลวงพ่อวัดปากน้ำ

หลวงพ่อวัดปากน้ำคิดอะไรไม่เหมือนใคร

      จากการศึกษา พบว่าหลวงพ่อคิดอะไรไม่เหมือนใคร ความคิดบางอย่างมันน่าอันตราย โปรดดูประวัติในการบำเพ็ญเพียรทำภาวนาของท่านดังนี้

     “เราเรียนธรรมของพระบรมศาสดามามากแล้ว ทั้งหลักสูตรนักธรรมและหลักสูตรบาลีนั่นคือการรู้ตามตำรา ตำราเขาว่าอย่างไร เราก็รู้ตามนั้น แต่เรายังไม่เห็นธรรมกับหูกับตาเราเราชื่อว่าไม่มีคุณธรรมอะไร ชีวิตของสมณะอยู่ได้ด้วยข้าวสุกของชาวบ้าน ก็เราไม่เห็นธรรมอะไรเราอยู่ไปก็เปลืองข้าวสุกชาวบ้าน  ชีวิตของเราหาประโยชน์อะไรไม่ได้  นั่งทำภาวนาคราวนี้  หากไม่เห็นธรรมตามที่พระบรมศาสดาทรงเห็นแล้ว  ตายเสียได้ก็ดี”

     สรุปแล้ว หากไม่เห็นธรรม ตามที่พระพุทธองค์ทรงเห็นแล้ว ขอให้ตายไปเลย

     “ชีวิตที่ไม่เห็นธรรม เป็นชีวิตที่ไร้ประโยชน์”

     นี่คือ ความคิดของหลวงพ่อ

     เราก็พิจารณาต่อไปว่า เราเคยศึกษาประวัติเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียง เคยพบไหม เกจิอาจารย์ใดมีความคิดอย่างนี้บ้าง ตอบได้ว่า ไม่เคยพบ ไม่เคยเห็นใครคิดอย่างนี้ ทำไมหลวงพ่อต้องคิดอย่างนั้น ความคิดเช่นนั้นเป็นความคิดของผู้มีบารมีธรรมชั้นสูงเท่านั้น อย่างเราคิดอย่างนั้นไม่เป็น เพราะเราไม่ใช่ผู้มีบารมีธรรมอย่างหลวงพ่อ

     ประการต่อมา เรามาพิจารณาว่า ทำไมหลวงพ่อคิดว่า สมณะ ถ้าไม่เห็นธรรมของพระบรมศาสดาแล้วขืนอยู่ในเพศสมณะต่อไป ก็เปลืองข้าวสุกชาวบ้าน ความจริงหลวงพ่อเป็นพระ มีศีล ๒๒๗ เป็นเนื้อนาบุญของชาวโลกอยู่แล้ว ไม่มีใครรังเกียจพระที่มีศีลบริสุทธิ์ หลวงพ่อเป็นผู้หนึ่งที่ขึ้นชื่อว่ามีศีลบริสุทธิ์ เหตุไฉนหลวงพ่อมาคาดคั้นเอาแก่ตัวเองมากเกินไป ดูแล้วหลวงพ่อขาดเหตุผล


     บอกแล้ว บอกแล้วว่า หลวงพ่อคิดอะไรไม่เหมือนใคร


     หลวงพ่อท่านตีราคาชีวิต “ชีวิตที่มีประโยชน์คือชีวิตที่เห็นธรรมเท่านั้น”


     ความจริงหลวงพ่อสอนนักธรรมก็ได้ สอนบาลีก็ได้ ทำวัตร สวดมนต์ อันเป็นธุระของพระสงฆ์ปกครองพระสงฆ์ให้อยู่ในระเบียบวินัย แค่นี้ก็เป็นประโยชน์มากแล้ว อบรมสั่งสอนพระเณรและเทศน์สอนชาวบ้านในวันพระวันโกน หลวงพ่อก็ทำเป็นปกติอยู่แล้ว แค่นี้ก็เป็นประโยชน์เหลือหลายแล้ว


     แคนี้ หลวงพ่อท่านว่าไม่ใช่ประโยชน์จริง “ประโยชน์ที่แท้ต้องเห็นธรรมจึงจะเป็นประโยชน์จริง”


     ต้องเอาธรรมตามที่พระบรมศาสดาทรงรู้ทรงเห็น มาสอนกัน นี่แหละคือ ประโยชน์ หลวงพ่อท่านตีความอย่างนั้น มาถึงคำว่า “ธรรม” ตามความหมายของหลวงพ่อ ไม่ได้หมายความว่า คำสอนของพระพุทธเจ้า หลวงพ่อหมายเอาว่า หน้าตาธรรม หูตาธรรม รูปร่างลักษณะของธรรม รูปพรรณสัณฐานเนื้อหนังธรรมนั่นเอง ธรรมที่ว่านี้อยู่ที่ไหน ธรรมที่บอกปิฎกได้อยู่ที่ไหน หลวงพ่อท่านหมายความอย่างนี้

     ในที่สุด จากการบำเพ็ญแบบถวายชีวิตของหลวงพ่อ หลวงพ่อก็เห็น “ธรรมกาย” สมใจของท่านเห็นที่ศูนย์กลางกายของท่าน ตามเนื้อหาสาระในหนังสือทางมรรคผล ๑๘ กายของหลวงพ่อนั้น เชิญท่านหาอ่านได้
      ธรรมกายคือตถาคต ตถาคตคือธรรมกาย นั่นคือ ธรรมกายคือพระรัตนตรัย พระรัตนตรัยคือตถาคต หลวงพ่อได้เห็นธรรมอย่างนี้ โดยที่ท่านไม่คาดคิด ในตอนหลังหลวงพ่อพูดว่า การที่ได้เห็นพระรัตนตรัย หรือการได้เห็นธรรมกายนั้น เป็นการเข้าถึงกรุวิชาขนานแท้ พบตำราพิชัยสงครามใหญ่ทีเดียวเป็นตำราพิชัยสงครามของพระรัตนตรัย รวมเรียกว่า “วิชาธรรมกาย” ตามที่เราได้ยินได้ฟังนั่นเอง

 

บางส่วนจากหนังสือคติธรรม คตินิยม การดำเนินชีวิต หลวงพ่อวัดปากน้ำ หน้า 15 : อ่านเพิ่มเติม