ปราบมาร 3

หนังสือเล่มนี้ให้ประโยชน์อะไรแก่ท่าน

      เป็นข้อมูลสําหรับอ้างอิงในการศึกษาเรื่องปราบมาร แต่เป็นวิชาธรรมกายชั้นสูง จึงยากต่อการเรียนรู้ต้องอาศัยวาสนา บารมีเฉพาะตนประกอบด้วย การศึกษาเรียนรู้จึงดําเนินไปได้ ไม่ใช่ความรู้ธรรมดาต้องทําความเข้าใจประเด็นนี้ให้ชัดเจนแต่เบื้องต้น ว่าไม่ใช่ความรู้ธรรมดา ไม่ใช่เรื่องที่รู้เห็นได้ง่าย

      เหตุที่เขียนขึ้น ก็เพื่ออนุเคราะห์ผู้สนใจใฝ่รู้วิชาธรรมกายชั้นสูง หากไม่ทําเป็นตําราไว้ย่อมยากต่อการศึกษาคนคว้าด้วยประการทั้งปวง ยุคนี้เป็นยุคโลกาภิวัตน์หรือที่เรียกแต่เดิมว่า โลกานุวัตรไม่ว่าจะเรียนอะไร ผู้ศึกษาเรียกหาหนังสือทันที ว่ามีตําราให้อ่านหรือไม่ เขาเรียนรู้จากตํารานั้นแต่ตํารานั้นเป็นเพียงแนวทาง การเรียนวิชาธรรมกายจะให้ดี ต้องฝึกโดยตรงต่อครูอาจารย์  ดูแต่การฝึกการร่ายรําของนาฏศิลป์ ครูฝึกยังต้องมาจัดตัวจัดท่า เราจึงจะรําถูกแบบ ดูแต่การฝึกพลศึกษาครูเขายังมาจับจัดตัวท่าทาง เราจึงจะทําได้ถูกแบบฉบับของเขา

      โดยเฉพาะวิชาปราบมาร อันเป็นเรื่องโลดโผนโจนทะยานแม้หลวงพ่อวัดปากน้ําจะรู้กันในหมู่ผู้ทําวิชาธรรมกายชั้นสูง แต่พวกเราที่สนใจ ก็มักนําเรื่องราวมาเล่ากันเล่าถูกบ้างผิดบ้าง ซึ่งข้าพเจ้าได้ยินบ่อย ๆ คนที่ฟังบางท่านเขาไม่เชื่อ เขาก็พูดไปในทางที่เขาไม่รู้บางครั้งกลายเป็นลบหลู่ผู้รู้ไปได้ ครั้นมาถึงยุคที่ข้าพเจ้าที่มีส่วนได้ทําวิชา ข้าพเจ้าเขียนเป็นตําราออกมาเลย  ใครจะว่าอย่างไรเป็นเรื่องของเขา หากเราไม่ทําตําราไว้ มีแต่วิชาจะสูญ ข้าพเจ้าคิดอย่างนี้ จึงทําตําราขึ้นเท่าที่ข้าพเจ้ามีความรู้

      บัดนี้ ในโลกของเรามีตําราอย่างนี้เรียนแล้ว ขอเชิญท่านผู้สนใจตักตวงได้ทันที

      แต่ว่า การจะอ่านตําราของข้าพเจ้ารู้เรื่อง ท่านต้องเรียนหลักสูตรเบื้องต้นให้ได้เสียก่อน คือ วิชาธรรมกายหลักสูตรคู่มือสมภาร และวิชาธรรมกายหลักสูตรมรรคผลพิสดารและตําราทุกเล่มที่ข้าพเจ้าเขียน ทําได้ดังนี้จึงจะอ่านหนังสือของข้าพเจ้ารู้เรื่อง

      ตําราเล่มนี้ไปอยู่ที่ไหน จะไปอยู่ในลักษณะใด จะเก็บรักษากันไว้อย่างไรข้าพเจ้าไม่คิด ข้าพเจ้าคิดแต่ว่าประเทศไทย ต้องมีผู้มีบุญมาเกิด คนมีบุญยังมีอยู่หากท่านมาพบตําราเล่มนี้เข้า ท่านจะคิดได้ทันที ท่านจะนึกได้ทันที ท่านจะรู้ค่าทันทีและท่านจะเรียนทันที งานปราบมารอาจเกิดขึ้นในตอนนั้นก็ได้ เขาจะขอบคุณข้าพเจ้าในตอนนั้นเพราะเขาเห็นค่าของตําราในตอนนั้น

      ขออนุญาตกล่าวความคิดส่วนตัวสักเล็กน้อย เหตุใดจึงทําหนังสือย่างนี้ขึ้นนี่คือคําถามที่ท่านทั้งหลายอยากทราบ

      เราทํางานอันตราย คืองานปราบมาร ความรู้ที่ได้จากการปราบมาร ถือเป็นความรู้สําคัญ  ยากที่จะเห็นและยากที่จะรู้ เมื่อได้มาแล้ว ต้องนํามาเผยแพร่เพื่อผู้มีบารมีธรรมไม่ต้องเสียเวลาไปค้นคว้าอีกเพราะการค้นคว้านั้นใช้เวลาและใช้ความรู้สูง กว่าจะทราบแต่ละอย่าง ต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพันตามที่ท่านทราบแล้วในหนังสือปราบมารภาค ๑ และภาค ๒ นั้น ความรู้บางอย่างตามที่ข้าพเจ้าเคยกล่าวพาดพิงถึงแม่ชีถนอม อาสไวย์ นั้น หลวงพ่อท่านว่า เรื่องนี้ใช้เวลาค้น ๒,๐๐๐ ปีเชียวหนา  ได้มาแล้วทําไมพวกเราไม่ทํากัน นี่คือตัวอย่างที่เราได้ข้อคิด

      ประเด็นที่ว่า เราจะเข้าถึงวิชาได้แค่ไหน เรื่องนี้ข้าพเจ้าแก้ไม่ตกอย่างเมื่อคืนนี้เข้านิโรธไปถามหลวงพ่อว่า “กําเนิดเดิมมันละเอียดเหลือเกิน ทําไมจึงจะแจ้งได้”หลวงพ่อท่านตอบว่า “คนที่จะเห็น ต้องมีบุญ” หลวงพ่อกล่าวอย่างนี้ เราฟังแล้วเกิดความคิดขึ้นอีกทุกเรื่องต้องเรียนรู้ การเรียนรู้ต้องบากบั่น การบากบั่นต้องอดทน ทดลองแล้วทดลองอีก จนกว่าจะแจ้งแจ้งได้เมื่อใด จึงเกิดบารมีระดับนั้นขึ้น ระดับต่อไปค่อยว่ากันใหม่ เรื่องมันยากอย่างนี้

      หนังสือของข้าพเจ้าทุกเล่ม ต้องไปปรากฏในธาตุในธรรมทั้งหมด เป็นเคราะห์ดีที่ข้าพเจ้าทําได้เพราะอะไรจึงเอาหนังสือไปไว้ในนิพพาน เหตุผลก็คือ ต้องการพยาน ว่าเราได้เผยแพร่แล้วบัดนี้หนังสือของข้าพเจ้าทุกเล่มปรากฏขึ้นในนิพพานแล้ว ธาตุธรรมจะกล่าวข้อบกพร้องแก้เราไม่ได้เราต้องป้องกันตัวเองทุกด้าน อย่าให้มีข้อบกพร่อง หากธาตุธรรมท่านกล่าวตําหนิเราขึ้นมาจะด้วยเหตุใดเราจะไม่สบายใจตลอดไป แต่การที่ท่านไม่เอาธุระเป็นเรื่องของท่าน ข้าพเจ้าไม่ทราบด้วยแล้วท่านต้องรับผิดชอบตัวของท่านเอง ธาตุธรรมท่านลงโทษ แล้วเรื่องจะไปกันใหญ่ แม่ชีถนอม อาสไวย์กล่าวแก่ข้าพเจ้าตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านพูดว่า “ศึกษา ฯ ฉันนี้ธาตุธรรมท่านเลี้ยง ผ้าเมตรหนึ่งไม่เคยซื้อข้าวสารลิตรหนึ่งไม่เคยซื้อ ทําวิชาไปวันหนึ่ง ๆ เท่านั้น จะคุ้มข้าวสุกหรือเปล่า หากตายไปจะอย่างไร ยังไม่รู้มันเสียวสันหลัง” นี่คือ คํากล่าวของแม่ชี

       ความหมายของคํากล่าวคืออย่างไร ท่านอยากทราบ ก็คือว่า ชุดธรรมกายที่ธาตุธรรมท่านส่งมาเกิดจะต้องทําวิชา ธาตุธรรมท่านเลี้ยง ข้าวไม่ต้องซื้อ เสื้อผ้าไม่ต้องซื้อ มีคนนํามาให้กินให้ใช้โดยธาตุธรรมท่านกํากับอยู่ข้างหลัง หากงานของเราไม่เข้าเป้า ธาตุธรรมท่านลงโทษทั้งนั้นแต่แม่ชีถนอมท่านมักน้อย ไม่ร่ํารวยอะไร ท่านทําวิชาของท่านไปจนหมดอายุ ท่านตายเมื่อปี๒๕๒๘ ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่ข้าพเจ้าทําวิชาปราบมารแล้ว พบแม่ชีตายลง ข้าพเจ้าเข้าปกป้องทันทีไม่ให้มีการกระทบกระทั่งท่าน ขอให้เป็นสุขสถานเดียว เพราะท่านเป็นอาจารย์ของข้าพเจ้าเรื่องแค่นี้ช่วยท่านไม่ได้ก็อย่าคบกันเลย โชคดีที่แม่ชีตายก่อนข้าพเจ้า หากข้าพเจ้าตายก่อนท่านก็ไม่ว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรเหมือนกัน แต่ความรู้ที่จะช่วยครูอาจารย์ ท่านต้องเรียน ต้องเรียนมากๆ ยากที่จะทํา และก็ทํายากด้วย ในเรื่องนี้ขอให้ท่านไปอ่านปราบมารภาค ๑ และภาค ๒ ท่านคงทราบข้าพเจ้าเขียนไปแล้ว อย่ากลัวเลยท่านเอ๋ย คนที่ชื่อการุณย์ บุญมานุชนั้น พูดได้คําเดียวว่าคบได้ช่วยท่านได้ในยามยาก แม้ท่านตายไป ยังเอาข้าวเอาน้ําไปส่งให้กินได้ ไม่รู้จักคนชื่อการุณย์ บุญมานุชหมายถึงว่า ยังมีอะไรขัดขวางอยู่

       พูดถึงเรื่องตาย นึกขึ้นมาได้อีกรายหนึ่ง คือ พระราชสาครมุนี เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาครพอแม่ชีถนอม อาสไวย์ ตายได้ไม่นาน ต่อมาอีก ๒-๓ ปี ท่านเจ้าคุณราชสาครก็มรณภาพ ข้าพเจ้าเข้าปกป้องอีกขอให้ท่านไปอ่านหนังสือปราบมารภาค ๓ โดยเหตุที่ท่านเจ้าคุณเป็นพระ เคยช่วยข้าพเจ้าเผยแพร่วิชาธรรมกายมีอะไรหลายอย่างที่ควรศึกษา เป็นคนละแบบกับแม่ชีถนอม อาสไวย์ ต้องไปหาอ่านจึงจะรู้

       มีหลายรายที่เป็นคนสําคัญ ที่ตายไปแล้ว แต่ข้าพเจ้าไม่ได้ไปยุ่งด้วย อย่าว่าข้าพเจ้าเลยเพราะไม่ได้คุ้นเคยอะไรกับข้าพเจ้า ไม่มีเหตุจูงใจข้าพเจ้าเลย ข้าพเจ้าไม่ทราบ เมื่อทราบหนหลังท่านน่าจะไปดีกว่านั้น ถึงท่านจะเรียกร้องให้ข้าพเจ้าช่วย โปรดอย่าว่าข้าพเจ้าไม่มีน้ําใจเลย  ท่านเพิ่งทราบว่าข้าพเจ้ามีความสําคัญต่อเมื่อท่านได้ตายไปแล้ว ในตอนที่ท่านมีชีวิตอยู่ในโลกท่านไม่รู้จักข้าพเจ้า ท่านไม่เห็นความสําคัญของข้าพเจ้า แม้ท่านจะเป็นธรรมกายระดับมีชื่อกรณีอย่างนี้ท่านช่วยตัวของท่านเองเถิด อย่าให้ข้าพเจ้าไปเกี่ยวข้องด้วยเลย ขอโทษด้วยที่ไม่อาจไปยุ่งด้วยได้มันก็แปลกที่ทุกอย่างจะแจ้งกันหมดในวันที่เราตาย ใครจริง ใครปลอม ใครแท้ ใครเทียมวันตายเป็นวันที่แจ้ง ความเข้าใจบางอย่างเราเข้าใจผิดไป แต่ความเข้าใจอันนั้น จะไปแจ้งในวันตายแม้จะกลับมานึกถึงข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็ไม่อาจทําอะไรได้ เพราะความเกี่ยวข้องกันไม่มีเพราะการช่วยกันกรณีอย่างนั้น ต้องใช้ความรู้สูง ใช้บารมีบุญมากโข เมื่ออะไรเลยตามเลยแล้วก็ขอให้เลยตามเลยไป ข้าพเจ้าไม่ให้ความสําคัญต่อเงินเท่าไรนัก แต่ให้ความสําคัญกับวิชาธรรมกายสูงยิ่งให้ความสําคัญต่องานเผยแพร่วิชาธรรมกายให้ความสําคัญต่อท่านที่ทําวิชาปราบมาร  ใครทําวิชาปราบมารได้ มีอะไรข้าพเจ้าเทให้หมด ขอให้ธาตุธรรมท่านบอกชื่อมาเถิดข้าพเจ้าจะเทให้ทั้งนั้น เพราะอีกไม่นานเราก็ตายแล้ว ฉะนั้นเราต้องรีบทํางานของเราให้เสร็จเพราะธาตุธรรมท่านกําหนดหน้าที่และบทบาทให้แล้ว เราต้องทําอย่าดีที่สุดต้องรับผิดชอบพอสมควรแก่อัตภาพ

      ขอสรุปว่า ธาตุธรรมท่านให้มาเกิดเพื่อทําวิชาธรรมกาย อย่ากลัวความตายเพราะเราต้องตายอยู่แล้ว สิ่งอันใดที่ข้าพเจ้ารู้เห็น ข้าพเจ้าต้องปกป้อง เพราะข้าพเจ้ามีหน้าที่ปราบมาร  ขอบข่ายอํานาจปกครองมีอยู่ ข้าพเจ้าทราบและเข้าใจ ไม่ว่าอะไร หากไม่เหลือวิสัยแล้ว ข้าพเจ้าจะไม่ดูดายหากข้าพเจ้านิ่งและดูดาย ก็ต้องว่าตัวใครตัวมันเถิดเพื่อเอ๋ย แต่ใครจะถูกลงโทษ ตามที่แม่ชีถนอมอาสไวย์ ท่านเล่านั้น เรื่องนี้ข้าพเจ้าไม่ทราบมาก่อน แต่นักเรียนรุ่นพี่ท่านพูดกัน ในส่วนที่เกี่ยวกับข้าพเจ้าข้าพเจ้ารับผิดชอบตัวเอง หากินเอง แต่ทํางานให้ธาตุธรรม ผลงานของข้าพเจ้ามีอย่างไร เป็นที่แจ้งกันแล้วเขียนกันโจ่งแจ้งไปแล้ว ไม่มีอะไรต้องมาปกปิดกัน ดังนั้น ข้าพเจ้าพูดดังได้ในทุกสถาน เราไม่มีหนี้ติดตัว                          

บางส่วนจากหนังสือ ปราบมาร 3 หน้า 71  :  อ่านทั้งหมด | หน้าแรก